เมนู

เจริญอนุบุพพวิปัสสนา ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วบวช. ต้นมหาโพธิ์ได้
ประดิษฐานอยู่บนอากาศ จนพระอาทิตย์อัสดงคต ก็เมื่อพระอาทิตย์อัสดงคต
แล้ว จึงกลับ (ลงมา) ประดิษฐานอยู่บนปฐพี โดยโรหิณีนักขัตฤกษ์.
พร้อมกับด้วยต้นมหาโพธิ์ประดิษฐานอยู่ (นั่นแล) มหาปฐพีได้ไหวจนถึงที่สุด
น้ำ (รองแผ่นดิน). ก็แล ต้นมหาโพธิ์ ครั้นประดิษฐานอยู่แล้ว ก็นิ่งเงียบ
อยู่ในกลีบเมฆ (กลุ่มหมอก) ตลอด 7 วัน. ต้นมหาโพธิ์ได้ถึงความมอง
ไม่เห็นชาวโลก (คือชาวโลกมองไม่เห็นต้นมหาโพธิ์). ในวันที่ 7 นภากาศ
ได้ปราศจากเมฆหมอกแล้ว. รัศมีซึ่งมีพรรณ 6 ประการ ก็พวยพุ่งกระจาย
ออก. ลำต้น กิ่ง ใบ และผลทั้ง 5 แห่งต้นมหาโพธิ์ก็ปรากฏให้เห็น. พระ
มหินทเถระ พระนางเตละเลียดตาเถรี และพระราชา พร้อมด้วยข้าราชบริพาร
ได้เสด็จไปถึงสถานที่ตั้งแห่งต้นมหาโพธิ์นั่นแล. และประชาชนชาวเกาะทั้งหมด
ก็ประชุมกันแล้วโดยส่วนมาก. เมื่อชนเหล่านั้นมองดูอยู่นั่นเอง ผลหนึ่งจากกึ่ง
ด้านทิศอุดรสุกแล้วก็หล่นจากกิ่ง. พระเถระน้อมหัตถ์เข้ารับไว้. ผลก็ได้ตั้งอยู่
บนหัตถ์ของพระเถระ. พระเถระได้ถวายผลนั้นแด่พระราชา โดยถวายพระพร
ว่า ขอพระองค์ทรงปลูกเถิด มหาบพิตร !

[ต้นมหาโพธิ์แตกสาขาออกถึง 8 ต้นและ 32 ต้น]


พระราชาทรงรับแล้ว ก็ทรงโปรยปุ๋ยที่มีรสดีลงที่กระถางทองใส่โคลน
ที่ผสมด้วยของหอมให้เต็ม แล้วเพาะปลูกไว้ในที่ใกล้ต้นมหาโพธิ์. เมื่อชน
ทั้งหมดดูอยู่นั่นเอง ต้นโพธิ์อ่อน ๆ 8 ต้น ซึ่งมีประมาณ 4 ศอก ได้งอก
ขึ้นแล้ว. พระราชาทอดพระเนตรเห็นอัศจรรย์นั้นแล้วก็ทรงบูชาต้นโพธิ์อ่อน ๆ
8 ต้นด้วยเศวตฉัตร แล้วถวายการอภิเษก (แก่ต้นโพธิ์อ่อน ๆ ทั้ง 8 ต้นนั้น).
ประชาชนปลูกต้นโพธิ์ต้นหนึ่ง (ซึ่งแยกออก) จากต้นโพธิ์อ่อน ๆ ทั้ง 8 ต้นนั้น